"สตีวี่ จี" สตีเว่น เจอร์ราร์ด กัปตันทีมผู้ที่กำลังจะกลายเป็นตำนานของลิเวอร์พูล หลังจากจบฤดูกาลนี้เมื่อเจ้าตัวตัดสินใจที่จะโบกมือลาทีมไปค้าแข้งใน เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ เพื่อหาความท้าทายใหม่ ๆ โดยทาง แข้งวัย 34 กะรัต ออกมาชี้ว่าเขาเป็นผู้ตัดสินใจเองที่จะไป และอย่าไปโทษว่าเป็นความผิดของใครเลย ทว่าหาทางสโมสรยื่นสัญญาใหม่มาให้ตั้งแต่ช่วงซัมเมอร์ปีที่แล้วเขาก็คงจะเซ็นสัญญาใหม่ไปแล้ว จากรายงานของ อีเอสพีเอ็น เมื่อ 7 ม.ค. ที่ผ่านมา ว่าที่ยอดนักเตะตลอดกาลของ "หงส์แดง" ลิเวอร์พูล ที่เพิ่งจะประกาศออกมาว่านี่จะเป็นฤดูกาลสุดท้ายของเขากับ ลิเวอร์พูล แล้ว และเขาก็เตรียมที่จะโยกไปค้าแข้งใน เมเจอร์ลีก ซอคเกอร์ อเมริกา เพื่อหลีกเลี่ยงการเป็นคู่แข่งของ "หงส์แดง" แต่เขาเองก็อยากที่จะลงสนามแข่งขันฟุตบอลต่อไป จึงเลือกที่จะอำลาทีมไปในเวลาที่เหมาะสมที่สุด เติบโตในเสื้อแดงเพลิงของลิเวอร์พูลมาทั้งชีวิต สตีเว่น เจอร์ราร์ด ออกมากล่าวว่า "ในเรื่องที่ผมตัดสินใจจะย้ายทีมออกไป ผมพูดเลยนะว่าผมไม่ได้โกรธใครทั้งนั้นจริง ๆ ทุกอย่างเป็นเรื่องที่ผมตัดสินใจเอง และแฟน ๆ ก็อย่าไปกล่าวโทษใครเลยในเรื่องที่ผมตัดสินใจอำลาทีมไป ทุกอย่างมันเป็นสิ่งที่ผมเลือกที่จะก้าวต่อไปหาอะไรใหม่ ๆ ลองดูบ้าง แต่จริง ๆ แล้วหากว่าทางสโมสรยื่นสัญญาใหม่มาให้ผมมาตั้งแต่ซัมเมอร์ปี่ก่อนผมคงจะตอบตกลง" "คุณเชื่อไหมว่าผมเป็นผู้เล่นอายุมากที่มีอาการบาดเจ็บน้อยมากจริง ๆ นะ ซึ่งมันตรงข้ามกับผู้เล่นอายุมากรายอื่น ๆ เลยล่ะ ผมคิดว่าผมยังคงวิ่งไหว และสามารถเล่นฟุตบอลต่อไปได้เรื่อย ๆ อีกหลายปี แต่สิ่งที่ทำให้ผมต้องอำลาลิเวอร์พูลไป นั่นเป็นเพราะว่าผมคิดว่ามันถึงเวลาที่เหมาะสมแล้ว" "ก่อนหน้านี้ผมเองได้ลองคุยกับทาง เบรนแดน ร็อดเจอร์ส แล้วถึงอนาคตของผม ซึ่งเจ้านายก็มีแนวทางของเขา และเขาก็บอกผมตรง ๆ ว่าในฤดูกาลหน้าผมอาจจะไม่ได้ลงสนามอย่างต่อเนื่องนะ เพราะว่าเขาอยากให้ผมได้มีเวลาพักผ่อนบ้าง เขาคิดว่าอายุของผมไม่เหมาะสมเท่าไหร่นักที่จะต้องลง 90 นาที ตลอดในทุก ๆ เกม โอเคผมเข้าใจนะว่าผู้จัดการทีมหวังดีต่อไป ซึ่งใคร ๆ ก็รู้ว่าผมกับเบรนแดนเราต่างมีสายสัมพันธ์ที่ดีต่อกันเสมอมานับตั้งแต่เขามาอยู่ที่นี่ ผมนับถือเขา และเขาก็ทำให้ผมเข้าใกล้กับตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกมากที่สุดมาแล้ว"
คว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ลีก เมื่อปี 2005 เหนือ เอซี มิลาน ชนิดที่ช็อคกันทั้งโลก "ผมจึงพูดได้เต็มปากว่าผมไม่ได้มีปัญหาอะไรกับ เบรนแดน เลยแม้แต่น้อยเราเข้าใจซึ่งกันและกันมาก ๆ แต่มาถึงตรงนี้แล้วการที่ผมอาจจะไม่ได้ลงเล่นในฐานะผู้เล่นตัวจริงอีกต่อไป หรือลงเล่นไม่ได้เต็ม 90 นาที ผมเองบอกตรง ๆ ว่าผมยังทำใจไม่ได้นะ เพราะว่าผมอยู่ที่สโมสรแห่งนี้มากว่า 20 ปีแล้ว ตั้งแต่ที่ผมยังเป็นเด็กฝึกหัดของสโมสร และผมต้องมาทำงานในทุก ๆ วัน ผมต้องตื่นแต่เช้ามาซ้อมในวันจันทร์ และกลับบ้านในตอนเย็น" "พอผมได้ก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ผมก็ทำงานหนักมากขึ้น และทุ่มเททุกอย่างให้กับสโมสร ผมเองรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยที่ผมได้ร่วมงานกับ เบรนแดน ร็อดเจอร์ส ในช่วงปลายอาชีพค้าแข้งของผมแล้ว หากเราได้ร่วมงานกันเร็วกว่านี้ผมคิดว่ามันจะต้องดีกว่านี้แน่ ๆ" "และมาถึงตอนนี้จากการที่ผมอยู่กับทีมมานานกว่า 20 ปี นับตั้งแต่เป็นเยาวชน และก้าวขึ้นมาเป็นผู้เล่นในทีมชุดใหญ่ จนได้เป็นกัปตันทีม มันคงถึงเวลาที่เหมาะสมแล้วล่ะที่ผมจะต้องอำลาทีมไปสักทีในตอนที่ผมยังคงวิ่งไหวอยู่ ผมสัญญาว่าผมจะกลับมา ลิเวอร์พูล อีกครั้งในอนาคต เพราะที่นี่คือบ้านของผม และเป็นสโมสรเดียวที่อยู่ในใจของผมตลอดมา และตลอดไป" ทั้งนี้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เข้ามาเป็นนักเตะเยาวชนของ ลิเวอร์พูล ตั้งแต่ปี 1987 กระทั่งปี 1998 เขาก็ถูกเรียกขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ ก่อนที่จะก้าวขึ้นมาเป็นกัปตันทีมผู้ยิ่งใหญ่ของลิเวอร์พูล จากวันนั้นมาจนถึงวันนี้ |